ฮอร์โมนไม่สมดุล ปัญหาจากภายใน สาเหตุของการเกิดสิว ที่ไม่ควรมองข้าม
จบปัญหา “สิวฮอร์โมน” ด้วยโปรแกรม Acne Clear Skin เคลียร์ครบจบทุกสิว สิวเรื้อรัง รักษาไม่หาย สาเหตุอาจเป็นเพราะฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล จนเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว
- สิวที่เกิดจากฮอร์โมนไม่สมดุลช่วงเข้าสู่วัยรุ่น-วัยรุ่น
- สิวที่เกิดจากฮอร์โมนไม่สมดุลช่วงก่อน – มีประจำเดือน
- สิวที่เกิดจากฮอร์โมนไม่สมดุลเนื่องจากเกิดความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ
- สิวที่เกิดจากฮอร์โมนไม่สมดุลจากการรับประทานของหวานมากเกินไป
- จริงหรือไม่? ที่สิวฮอร์โมนไม่ได้เกิดขึ้นแค่ช่วงวัยรุ่นเท่านั้น
- ดูแลรักษาสิวที่เกิดจากฮอร์โมนอย่างไร ?
- โปรแกรม Acne Clear Skin ของทาง The Touch Clinic ตอบโจทย์เรื่องสิวอย่างไรบ้าง? ทำไมต้องเป็นที่นี่เท่านั้น?
ปัญหาสิว หลายคนเกิดข้อสงสัยว่า เราดูแลตัวเอง รักษาความสะอาด ปรนนิบัติอย่างดี แต่ทำไมสิวยังคงไม่จากเราไปไหน ยังคงอยู่เคียงคู่กับเราเสมอ และในบางครั้งก็พาเหล่าสิวมามากอย่างผิดปกติอีกด้วย ก่อนจากไปก็ทิ้งรอยแผล หลุมสิวต่างๆ ไว้ให้ดูต่างหน้าอีกต่างหาก กลุ้มอกกลุ้มใจ หาทางออกไม่เจอ แต่ทุกคนทราบหรือไม่ว่า มีอีกหนึ่งสาเหตุ ที่เป็นต้นตอของการเกิดสิวที่หลายคนมองข้าม หรือยังไม่รู้ นั่นก็คือ ปัจจัยจากภายในร่างกายของเรา หรือ ฮอร์โมน นั่นเองค่ะ
วันนี้เรามาเรียนรู้ และทำความรู้จักกับ สิวและฮอร์โมน กับทาง The Touch Clinic กัน ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับฮอร์โมนที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวกันค่ะ
สิวที่เกิดจากฮอร์โมนไม่สมดุลช่วงเข้าสู่วัยรุ่น-วัยรุ่น
- ฮอร์โมนแอนโดรเจน Androgen ฮอร์โมนนี้จะพบมากในเพศชาย ในช่วงที่เข้าสู่วัยรุ่น ฮอร์โมนแอนโดรเจนจะหลั่งออกมามาก และไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้เกิดความมันส่วนเกิน จนเป็นที่มาของสิวนั่นเอง
- ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน Testosterone ช่วงเข้าสู่วัยรุ่นทั้งหญิง และชาย ฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมา และกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้เกิดความมันมากเป็นพิเศษ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวค่ะ
สิวที่เกิดจากฮอร์โมนไม่สมดุลช่วงก่อน – มีประจำเดือน
- ฮอร์โมนเอสโตรเจน Estrogen หรือ ฮอร์โมนเพศหญิง บทบาทสำคัญจะมาในช่วงมีประจำเดือน ซึ่งถ้าหากมีมากขึ้น หรือลดลงนั้น ส่งผลตรงต่อความเครียดของเราค่ะ ซึ่งความเครียดเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดสิวเช่นกัน ฮอร์โมนตัวนี้จะค่อยๆ ลดลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น จนถึงวัยหมดประจำเดือน
- ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน Progesterone ในช่วงที่มีประจำเดือนของผู้หญิง จะหลั่งฮอร์โมนตัวนี้ออกมาสูง ทำให้ผลิตน้ำมันออกมามากเช่นกัน ส่งผลให้ช่วงก่อนมีประจำเดือน – ระหว่างมีประจำเดือน ทำให้เกิดสิว
สิวที่เกิดจากฮอร์โมนไม่สมดุลเนื่องจากเกิดความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ
- ฮอร์โมนคอร์ติซอล Cortisol ในช่วงที่มีความเครียดสะสมมากๆ พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนดึก ติดซีรี่ส์ ฮอร์โมนตัวนี้จะหลั่งออกมา และไปกระตุ้นการผลิตไขมัน ทำให้เกิดสิวได้ง่าย
สิวที่เกิดจากฮอร์โมนไม่สมดุลจากการรับประทานของหวานมากเกินไป
- ฮอร์โมนอินซูลิน Insulin ฮอร์โมนตัวนี้ไม่ได้ส่งผลให้เกิดสิวโดยตรง แต่จะไปกระตุ้นการหลั่ง ฮอร์โมนแอนโดรเจน ออกมา ถ้าหากชอบของหวาน ติดทานรสหวาน จะส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูง ร่างกายจะหลั่งอินซูลินให้มาควบคุมน้ำตาลในเลือด ถ้าหากอินซูลินหลั่งออกมาเยอะ เจ้าฮอร์โมนแอนโดรเจนจะตามออกมาด้วย ทำให้เกิดน้ำมันบนผิว ทำให้เกิดสิวง่าย
สิวที่เกิดจากฮอร์โมน เป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น แต่ว่าเราสามารถรักษาได้ด้วยการแก้ปัญหาที่ถูกวิธี วิธีสังเกตง่ายๆ หากว่าสิวมาในช่วงระยะเวลาซ้ำๆ เวลาเดิม ยกตัวอย่างเช่น ก่อนมีประจำเดือน หรือระหว่างมีประจำเดือน ช่วงที่ไม่ได้พักผ่อน มีความเครียด เป็นต้น สาเหตุเหล่านี้เกิดจากฮอร์โมนทำงานไม่สมดุล
จริงหรือไม่? ที่สิวฮอร์โมนไม่ได้เกิดขึ้นแค่ช่วงวัยรุ่นเท่านั้น
จริงค่ะ เพราะเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นฮอร์โมนบางตัวก็ลดบทบาทในการทำงานลง ทำให้ผิวที่เคยชุ่มชื้น เต่งตึง หย่อนคล้อยลง ทำให้สภาพผิวแห้ง ขาดน้ำ ผิวบาง และใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูนานกว่าช่วงเราเป็นวัยรุ่น เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวง่ายได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น ไม่ว่าอยู่ช่วงวัยไหน สิวเจ้าปัญหาก็ตามมาก่อกวนเราได้เรื่อยๆ หากเราไม่รู้วิธีรับมือ หรือรักษาผิดจุด นอกจากจะเสียเวลา เสียค่ารักษาที่ผิดวิธี เราอาจสูญเสียความมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ ไม่ว่าจะอยู่ช่วงวัยไหน เราทุกคนก็อยากมีผิวหน้าที่สุขภาพดี ไม่มีปัญหาผิวกวนใจ
ดูแลรักษาสิวที่เกิดจากฮอร์โมนอย่างไร ?
- รักษาด้วยวิธีธรรมชาติ เป็นการรักษาแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ใช้สารจากธรรมชาติบำบัดผิว ข้อดีคือ สามารถทำได้เอง ทำตอนไหนก็ได้ ราคาค่อนข้างถูก แต่การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ เป็นการรักษาที่ปลายเหตุ เป็นการทำให้สิวหายไปเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่ไม่ทำให้หายขาดได้ อีกทั้งสภาพผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจเห็นผลลัพธ์ที่ดี บางคนอาจไม่เห็นผล และที่ร้ายแรงกว่านั้น บางคนอาจเกิดอาการแพ้ได้
- กินยารักษาสิว จากกลุ่มกรดวิตามินเอ ชนิด isotretinion เป็นยารักษาสิวที่ได้ผลดี ทำหน้าที่ลดการทำงานของต่อมไขมัน ซึ่งเป็นสาเหตุเริ่มต้นของการเกิดสิว สามารถลดการเกิดสิวอุดตัน และลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียที่ ทำให้เกิดสิว ผลข้างเคียงค่อนข้างรุนแรง ไม่ว่าจะป็น ผิวแห้ง ตาแห้ง ปากแห้ง ซึ่งจะพบในผู้ใช้ยาทุกราย บางรายมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หากกินตัวยาชนิดนี้เพื่อรักษาสิว ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์
- กินยาคุมฮอร์โมนเพื่อรักษาสิว เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกยอดนิยม ตัวยาจะช่วยลดระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนลง ทำให้การผลิตไขมันจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังลดลง ปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งช่วยลดการเกิดสิว ผลข้างเคียงจากการกิน ข้อควรระวังจากการกินยาคุมรักษาสิว หลายๆ คนอาจจะเกิดเอฟเฟกต์กับร่างกาย เช่น อาจทำให้หลอดเลือดอักเสบหรืออุดตันได้ น้ำหนักเพิ่มขึ้น อารมณ์แปรปรวนไม่คงที่ และอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เจ็บเต้านม ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ และที่สำคัญอาจทำให้เป็นฝ้าได้อีกด้วย อ่านถึงตรงนี้แล้วรู้สึกไม่คุ้มสักเท่าไหร่
ข้อควรแนะนำ ควรปรึกษาแพทย์ และไม่ใช่ทุกคนสามารถกินยาคุมรักษาสิวได้ ผู้ใช้ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุด
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลตัวเองทั้งภายใน และภายนอก อย่างที่ทราบกันดีว่า อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้สิวไม่จากเราไปไหน ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรม การใช้ชีวิตประจำวันของเรานั่นเอง เช่น การละเลยการดูแลผิวหน้า การรักษาความสะอาดที่ผิดวิธี ควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ออกไปไหน หรือไม่ได้แต่งหน้า แต่ในระหว่างวันผิวต้องพบเจอกับมลภาวะมากมายที่มองไม่เห็น ก่อให้เกิดความมัน และสิ่งอุดตันในรูขุมขน เป็นสาเหตุของการเกิดสิว และไม่ควรจับใบหน้าบ่อยๆ เพราะอาจมีเชื้อโรคจากมือที่เป็นตัวกลางพาสิ่งสกปรกมาสู่ใบหน้าเรา ทำให้เกิดสิว และไม่ควรแกะ หรือเกาใบหน้า เพราะจะทำให้ผิวระคายเคือง เกิดรอยสิว จุดด่างดำ การเลือกครีมบำรุงผิว เป็นสิ่งสำคัญ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำมัน (oil-free ) และควรจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าไม่ทำให้เกิดสิวอุดตันหรือสิวอักเสบ (noncomedogenic และ non-acnegenic)
ข้อควรระวัง หลีกเลี่ยงครีมบำรุงผิว เครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ เมื่อใช้ไปนานเข้าแล้วหยุดใช้ ก็ก่อให้เกิดปัญหาผิวที่รุนแรงตามมา หรือที่เรารู้จักกันดีว่า ‘สิวสเตียรอยด์’ ซึ่งใช้ระยะเวลาการรักษาที่นาน เพราะเจ้าสเตียรอยด์ตัวร้ายน้ัน จะทำให้เกิดจากการอักเสบของรูขุมขน โดยมีการปล่อยของเสียต่างๆ ออกมาจากเซลล์ ซึ่งเมื่อไปรวมตัวกับน้ำมันที่ผลิตออกมาจากต่อมไขมันจึงทำให้เกิดเป็นสิวเห่อขึ้นมา สิวสเตียรอยด์เป็นสิวที่ค่อนข้างรักษายากและต้องใช้เวลา ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาเกินจริง
- การเลือกรับประทานอาหารที่ดี ไม่ก่อให้เกิดความมัน หรือไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน หลีกเลี่ยงอาหารลดหวานจัด เลือกอาหารของที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อปริมาณที่ร่างกายต้องได้รับในแต่ละวัน ช่วยชำระล้างสารพิษในร่างกาย ควบคู่ไปกับการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงสิ่งที่ก่อให้เกิดความเครียด แต่เมื่อลองปรับการกินดูแล้ว แต่สิวยังคงอยู่ อาจเกิดจากอีกหนึ่งสาเหตุ ซึ่งอยู่ในข้อถัดไป
- สิวเรื้อรังจากภาวะภูมิแพ้อาหารแฝง (Food Intolerance) ใครจะไปคาดคิดว่าอาหารที่เรากินอยู่ทุกๆ วัน จะเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวเรื้อรังรักษาไม่หาย สาเหตุอาจมาจากภาวะภูมิแพ้อาหารแฝง เนื่องจากร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน หรือแอนติบอดี้ชนิด IgG (immunoglobulin G) เป็นภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อต่อต้านสิ่งแปลกปลอม หน้าที่ของ IgG ทำลายเชื้อโรค เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เราเกิดสิวเรื้อรังนั่นเอง
ซึ่งการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง จะใช้วิธีตรวจหาแอนติบอดีต่ออาหารจากเลือดของคนไข้ (Food Specific IgE) เพื่อดูว่ามีภูมิแพ้แฝงต่ออาหารชนิดใดบ้าง เพราะอาหารที่เป็นสาเหตุของภูมิแพ้อาหารแฝงนั้นมีได้มากกว่าหนึ่งชนิด เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงอาหารชนิดนั้นๆ แต่ข้อเสียของการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงคือ ค่าตรวจมีราคาค่อนข้างสูง
- การฉีดสิว สำหรับบางคนที่ใจร้อน อยากให้สิวยุบแบบรวดเร็วทันใจ แต่รู้หรือไม่ว่าสารที่ใช้ฉีดสิวคือสารสเตียรอยด์ ดังนั้นการฉีดสิวเป็นประจำอาจทำให้ผิวหน้าติดสารสเตียรอยด์ได้ ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่า สิวสเตียรอยด์เป็นสิวที่ค่อนข้างรักษายากและต้องใช้เวลา
ทุกปัญหาย่อมมีทางออก เมื่อเราทราบถึงต้นตอปัญหาสิวว่ามาจากสาเหตุอะไร ในระหว่างที่เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การดูแลตัวเองอย่างถูกหลักวิธี แต่ก็มีบ้าง บางขั้นตอนที่เราไม่สามารถคอนโทรลได้ เช่น ช่วงวัยที่เปลี่ยนทำให้ฮอร์โมนทำงานไม่สมดุล เราคงห้ามไม่ให้สิวขึ้นไม่ได้ใช่ไหมคะ แต่ทาง The Touch Clinic สามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ ด้วยโปรแกรมการดูแลปัญหาสิวโดยเฉพาะ ด้วยโปรแกรม Acne Clear Skin เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับทุกคน มากยิ่งขึ้น
โปรแกรม Acne Clear Skin ของทาง The Touch Clinic ตอบโจทย์เรื่องสิวอย่างไรบ้าง? ทำไมต้องเป็นที่นี่เท่านั้น?
ทาง The Touch Clinic จะเริ่มหาต้นตอของปัญหาผิว เพราะบางปัญหาไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทางเราจึงใช้เครื่องวิเคราะห์ผิวหน้า JANUS ตรวจสอบปัญหาผิวหน้าและวิเคราะห์สภาพผิว จะแสดงผลลัพธ์ออกมา 3 รูป (ถ่ายโดยแสงปกติ / แสงโพลาไรซ์ /แสงอัลตร้าไวเลต) จะวิเคราะห์ปัญหาผิวชั้นลึก โดยเทียบกับกราฟแสดงผล ทำให้เราวิเคราะห์ปัญหาให้คนไข้เห็นถึงต้นต้นของปัญหาก่อนทำการรักษา เพื่อให้งเห็นถึงปัญหาผิวอย่างเข้าใจและสามารถรักษาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
โปรแกรมของทาง The Touch Clinic จะไม่เหมือนกับที่ไหนๆ The Touch Clinic ดูแลรักษาปัญหาสิวแบบไม่จ่ายยา เน้นดูแลที่ต้นตอของปัญหา อย่างแท้จริง ด้วยนวัตกรรม เครื่องมือ อุปกรณ์ ที่ทันสมัย และได้รับการรับรองมาตรฐานสากล รวมทั้งทุกขั้นตอนกระบวนการดูแล ทางเราได้วิเคราะห์ปัญหาสิวโดยผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เริ่มต้น จนจบการรักษา ทำให้ มั่นใจ และสบายใจที่ให้ทาง The Touch Clinic ดูแล เพื่อรักษาปัญหาสิวได้ตรงจุด ลดปัญหา สิว เรื้อรัง อักเสบ ครบวงจรปัญหาสิว นอกจากเรื่องสิวแล้ว โปรแกรมนี้ ยังครอบคลุมดูแลในเรื่องของการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มคอลลาเจน เพื่อผิวที่แข็งแรง เรียบเนียน ฟื้นฟูเซลล์ผิว และดูแลให้กับผู้ที่มีปัญหาสิวเนื่องจาก ฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล ทำให้เกิดความมันบนใบหน้า ตัวโปรแกรม Acne Clear Skin สามารถดูแลได้อย่างตรงจุดค่ะ รวมทั้งปัจจัยต่างๆ ที่ก่อให้เกิดปัญหาสิว อีกด้วย
จบปัญหา “สิวฮอร์โมน” ด้วยโปรแกรม Acne Clear Skin เคลียร์ครบจบทุกสิว อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิ๊ก
เมื่อสิวได้เกิดขึ้นมาแล้ว ไม่ได้จากไปอย่างเงียบๆ แต่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้กวนใจ แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะโปรแกรม Acne Clear Skin ของทางเรานั้น มีการผลัดเซลล์ผิวเก่า เพื่อสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดโอกาสการเกิดปัญหาจุดด่างดำ รอยดำ รอยแผลเป็น จากสิว รวมไปถึง ลดรอยแผลจากผดผื่น รวมถึงการบำรุงผิวสูตรเฉพาะของ The Touch Clinic ตัวยาชนิดพิเศษนำเข้าจาก อิตาลี ที่จะให้ผลลัพธิ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจแน่นอนค่ะ
หากมีข้อสงสัยต้องการได้รับคำปรึกษาเกี่ยวกับสภาพผิว สามารถเข้ามาที่ The Touch Clinic ได้เลยค่ะ ทางเรามีทีมคุณหมอ ผู้เชี่ยวชาญ วิเคราะห์สภาพผิว พร้อมให้คำแนะนำ โดยไม่จำเป็นต้องซื้อคอร์สกับทางเราก็สามารถเข้ามาปรึกษาได้เลยค่ะ ทางเรายินดี เพราะเราเข้าใจว่า การมีผิวหน้าที่สุขภาพดี เสริมสร้างความมั่นใจให้กับทุกคน
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน ไว้สังเกตตัวเองง่ายๆ ว่าปัญหาสิวที่กวนใจเราอยู่ทุกวันนี้ ต้นเหตุมาจากฮอร์โมนหรือเปล่า และถ้าหากว่าใช่ เราจะรับมือ และปรับเปลี่ยนการดูแลตัวเอง เพื่อลดการเกิดสิว ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนให้เพียงพออย่างสม่ำเสมอ หากิจกรรมที่ผ่อนคลาย ลดกาารตึงเครียด เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ร่วมกับโปรแกรม Acne Clear Skin ของทาง The Touch Clinic ช่วยดูแลอีกขั้น เพื่อผลลัพธิ์ผิวหน้าใส ไร้สิว อย่างยั่งยืนค่ะ
