|

RF Eye Lifting รักษา ถุงใต้ตา ริ้วรอยใต้ตา โดยไม่ต้องผ่าตัด

อาการถุงใต้ตา หย่อนคล้อย ริ้วรอยใต้ตา รอยดำ รอยคล้ำ รอบดวงตา ที่สังเกตได้ชัด นอกจากจะส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจในการเข้าสังคม และการใช้ชีวิตประจำวัน แล้วยังเป็นจุดที่สามารถบ่งบอกถึงสุขภาพทางร่างกาย รวมถึงการดูแลตนเองในอีกด้วย เช่น ใต้ตาคล้ำ อันเนื่องมาจากการนอนหลับไม่เพียงพอจากความเครียดจากการทำงาน ตาโหลจากอาการของโรคภูมิแพ้

ซึ่งในปัจจุบันนั้น ได้มีเทคนิคการรักษาถุงใต้ตา ริ้วรอยใต้ตา และความหมองคล้ำรอบดวงตาที่หลากหลาย และหนึ่งในนั้นคือการใช้คลื่นวิทยุเข้ามารักษาอาการนี้ โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด และยังให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ไม่เจ็บ และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำอีกด้วย

ถุงใต้ตา คืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร ?

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับถุงใต้ตาเจ้าปัญหากันก่อนนะคะ ว่ามันคืออะไร มาจากไหน ถุงใต้ตาคือถุงไขมันที่เรามีกันอยู่แล้วทุกคน แต่ด้วยสาเหตุบางอย่างที่ทำให้ถุงไขมันนั้นเกิดอาการบวมใหญ่ขึ้น จนมองเห็นได้ชัดนั่นเอง และยิ่งไปกว่านั้น จากการที่ถุงใต้ตาเกิดการบวมขึ้น ยังส่งผลให้เกิดริ้วรอยใต้ตา หรือผิวเหี่ยวย่นอีกด้วย โดยอาการของถุงใต้ตาจะแบ่งออกได้อยู่ 2 ประเภท คือ ถุงใต้ตาแท้ และ ถุงใต้ตาเทียม

1.ถุงใต้ตาแท้ 

เป็นอาการถุงใต้ตาที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ส่วนใหญ่จะสืบทอดจากกรรมพันธุ์ ซึ่งจะมีอยู่ในร่างกายของเราตั้งแต่แรก โดยจะซ่อนอยู่ใต้ผิวหนังของเรานั่นเอง ปกติแล้วถุงไขมันนี้จะถูกกั้นไว้ด้วยกล้ามเนื้อเปลือกตาที่แข็งแรง 

สาเหตุที่ทำให้ถุงเหล่านี้บวมขึ้นจนเห็นได้ชัดนั้น ไม่ได้มาจากกรรมพันธุ์ แต่มักจะเกิดจาก ความเสื่อมสภาพของผิวหนังตามอายุขัยของเรา อันเนื่องมาจากเนื้อเยื่อที่รองรับถุงไขมันเกิดการหย่อนตัวลงตามวัยที่เพิ่มขึ้นค่ะ 

2.ถุงใต้ตาเทียม 

คือ อาการบวมน้ำที่เกิดขึ้นบริเวณใต้ตาล่าง หรือที่เราเรียกว่า ตาบวม หรือ ถุงใต้ตาบวม นั่นแหละ ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ระบบการไหลเวียนในร่างกายไม่ดี ระบบต่อมไร้ท่อภายในร่างกายทำงานผิดปกติ ส่งผลทำให้ไขมัน และของเหลว ไหลมารวมตัวกันบริเวณผิวหนังใต้ตาเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีของเหลวไปคั่งอยู่บริเวณดังกล่าว

รีวิว RF Eye Lifting

สาเหตุของการเกิดปัญหาถุง ใต้ตาบวม หย่อนคล้อย เกิดจากอะไร

สงสัยกันไหมคะ ว่าอยู่ๆ ทำไม ถุงใต้ตาบวม ของเราที่อยู่ดีๆ ถึงบวมออกมาได้ ? ซึ่งโดยปกติแล้วถ้าเราอายุยังไม่มาก ถุงไขมันบริเวณดังกล่าว จะถูกกล้ามเนื้อเปลือกตาของเราที่ยังแข็งแรงกั้นไว้ทำให้ดูเรียบตึงเนียนนั่นเอง แต่พอเวลาผ่านไปเมื่ออายุของเราเพิ่มมากขึ้น ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และเปลือกตาของเราค่อยๆ ลดลงทำให้ไขมันค่อยๆ บวม นูนป่องออกมาทีละน้อยๆ จนเห็นเป็น ถุงใต้ตา ชัดเจนได้นั่นเองค่ะ

อาการถุงใต้ตาบวมเกิดจากอะไร ?

จริงๆ แล้วอาการถุงใต้ตาบวม และถุงใต้ตาหย่อนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุค่ะ ทั้งปัจจัยภายใน และภายนอกค่ะ  อาทิ เช่น 

  • อายุผิวที่มากขึ้น การร่วงโรยตามวัย เมื่ออายุมากขึ้นนั้นส่งผลให้เนื้อเยื่อ และกล้ามเนื้อ รวมถึงเส้นใยคอลลาเจนบริเวณใต้ตาของเราอ่อนแอลง จึงทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวเกิดการหย่อนคล้อย จนเกิดเป็นถุงใต้ตานั่นเอง
  • ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ อาการของโรคภูมิแพ้นั้น นับเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อยได้ เนื่องจาก อาการของโรคจะส่งผลกระทบต่อชั้นกล้ามเนื้อผิวบริเวณใกล้กับใต้ตาของเรานั่นเอง
  • อาการแพ้จากการติดเชื้อ หรือการอักเสบบริเวณดวงตา รวมไปถึงการแพ้อากาศค่ะ แม้ว่าอาการแพ้เหล่านี้จะไม่ได้ส่งผลโดยตรง แต่โดยส่วนใหญ่เมื่อเกิดการระคายเคืองบริเวณดวงตา หรือมีอะไรเข้าตา เราก็มักจะขยี้ตาอยู่เสมอนั่นเอง ซึ่งการขยี้ยาบ่อยๆ ส่งผลให้ใต้ตาของเราหย่อนคล้อยได้ค่ะ
  • แสงแดด เพราะรังสียูวีมีผลให้ผิวหนังแห้ง และเกิดการร่วงโรยได้เร็วขึ้นนั่นเองค่ะ
  • พักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากจะส่งผลทำให้รอบดวงตาเกิดการคล้ำแล้ว การนอนน้อยยังส่งผลทำให้เกิดถุงใต้ตาได้เร็วขึ้นอีกด้วยค่ะ
  • ความเครียด ทำงานเยอะจนความเครียดตามมาไม่รู้ตัว เพราะเมื่อเราเครียดมากๆ จะส่งผลให้เรานอนไม่ค่อยหลับ หรือหลับไม่ค่อยสนิท และถ้าปล่อยให้ตัวเองเครียดบ่อยๆ ต้องระวังเลยค่ะ ถุงใต้ตาถามหาแน่นอน
  • ฝืนใช้สายตาเยอะ การจ้องหน้าจอ เป็นเวลานานๆ จะส่งผลให้เลือดของเราไหลไปรวมกันอยู่ที่ดวงตามาเป็นพิเศษ จนทำให้เกิดขอบตาคล้ำ และเป็นถุงใต้ตาได้ค่ะ
  • ผิวแห้งเป็นสัญญาณเตือนที่บอกว่าผิวเรากำลังขาดน้ำ ซึ่งหากปล่อยไว้ ความชุ่มชื้นบริเวณผิวหนังรอบๆ ดวงตาของเราจะหายไปและเกิดถุงใต้ตาขึ้นมานั่นเอง ดังนั้นถ้าปล่อยให้ผิวแห้งเมื่อไหร่ ถุงใต้ตาบวม ๆ ปรากฏตัวแน่นอน
  • รวมถึงพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันที่ทำไปโดยไม่รู้ตัวเป็นประจำ เช่น อดนอน นอนดึก ร้องไห้บ่อย ใช้สายตาเพ่งมองอะไรนานๆ เช่น จอคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือที่สว่างเกินไปค่ะ
Review RF Eye Lifting
Review RF Eye Lifting
Review RF Eye Lifting
Review RF Eye Lifting

การรักษาถุงใต้ตา ในแบบต่างๆ  

ปัญหาถุงใต้ตาบวมนั้น สำหรับคนที่ต้องการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน แนะนำให้ลองไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญดูก่อนค่ะ ว่าควรจะเลือกวิธีไหนดี โดยวิธีกำจัดถุงใต้ตาที่ทางการผู้เชี่ยวชาญ นิยมเลือกใช้ในการรักษานั้นได้แก่

ทำทรีทเมนท์ เพื่อยกกระชับผิวรอบดวงตา ได้ผลดีกับคนที่มีถุงใต้ตาบวม รวมไปถึงคนที่เริ่มมีริ้วรอยบริเวณดวงตาค่ะ ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากๆ เนื่องจาก ไม่เจ็บ และไม่ส่งผลข้างเคียงหลังทำค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยทำการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปยังบริเวณใต้ตา เพื่อทำให้ส่วนผิวหนังที่เกิดปัญหา เรียบเนียน ไม่หย่อนเป็นถุงนั่นเอง ซึ่งวิธีนี้ นับเป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยมมากๆ แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเนื่องจาก หากฟิลเลอร์ที่ใช้เข้าไปอุดตัดเส้นเลือดอาจจะส่งผลให้ตาบอดได้ หรือ หากแพทย์ผู้ทำการฉีดมีประสบการณ์ไม่มากพอ ก็อาจจะส่งผลให้ฟิลเลอร์เป็นก้อน แล้วเกิดอาการอักเสบ และบวมยิ่งกว่าเดิมได้ค่ะ

ผ่าตัดถุงไขมันใต้ตา เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดปัญหาถุงใต้ตาได้ดี แต่หลังทำไปแล้ว หากกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาของเราไม่แข็งแรง หรือกระดูกที่เกิดการทรุดตัวจากอายุที่มากขึ้น อาจจะทำให้เกิดปัญหาตาโหล หรือ ดวงตาลึกแทนได้ค่ะ นอกจากนี้การผ่าตัดถุงใต้ตาจัดเป็นศัลยกรรมประเภทหนึ่งค่ะ โดยจะมีอยู่ 2 ประเภทหลักๆ แบบแรกคือ ผ่าตัดเอาถุงใต้ตาออกอย่างถาวร กับการผ่าตัดโดยเย็บเก็บถุงไขมันบริเวณใต้ตา เพื่อให้ถุงใต้ตานั้นหายไป โดยใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 2 – 7 วันค่ะ ทั้งนี้ระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับ การดูแลตัวเองของคนไข้ด้วยค่ะ

เทคโนโลยีและหลักการทำงานของ RF คืออะไร  

ก่อนจะไปถึง RF Eye Lifting นั้น ควรกล่าวถึงคือการใช้เครื่องมือส่งผ่านความร้อนเข้าสู่ผิวหนัง ซึ่งมีแหล่งกำเนินจากคลื่นวิทยุ หรือ Radiofrequency Therapy หลักการคือการปล่อยคลื่นวิทยุจากประจุขั้วลบให้วิ่งผ่านไปยังขั้วบวก ซึ่งช่องว่างระหว่างคลื่นวิทยุที่วิ่งจากขั้วหนึ่งไปยังอีกขั้วหนึ่งนั้น จะทำให้เกิดความร้อนระหว่างขั้ว จึงมีการใช้ความร้อนนี้เข้ามารักษาปัญหาผิวหน้าต่างๆ ได้ ซึ่งการใช้ความร้อนนี้เพื่อให้ได้ผลทางการรักษา จะต้องมีเทคนิคการกระจายและการสะสมที่นานและมากพอ (โดยทั่วไปอยู่ที่ 42-45 องศาเซลเซียส นาน 5 นาที ขึ้นไป) ความร้อนที่สะสมใต้ผิวนั้น จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ใต้ผิวดังต่อไปนี้

  • หลอดเลือดขยายตัว ทำให้การลำเลียงออกซิเจน สารอาหาร มาที่ผิวบริเวณนั้นได้ดีขึ้น
  • เร่งการดูดกลับของเลือด สารน้ำ หรือของเสียที่คั่งค้างอยู่ที่บริเวณนั้นได้ (เช่น ถุงใต้ตาที่คล้ำ เกิดจากการเส้นเลือดที่มาเลี้ยงรอบๆ ดวงตานั้นแตก ไม่สามารถดูดกลับได้)
  • ส่งผลให้คอลลาเจนหดตัว เกิดการเรียงตัวใหม่ของเส้นใยคอลลาเจนใต้ผิวหนัง
  • เร่งการซ่อมสร้างและเร่งการหายใจระดับเซลล์บริเวณอวัยวะอื่นๆ โดยรอบ (ผลทางอ้อม)

ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากการรักษาถุงใต้ตา ด้วย RF Eye Lifting  

  • รักษาริ้วรอยที่เกิดจากการเสื่อมโทรมของชั้นคอลลาเจนที่ทรุดตัว หรือหายไปได้ดี โดยจะเห็นผลลัพธ์หลังทำทันที (ความชัดเจนขึ้นอยู่กับชนิดของเครื่อง RF) และจะเห็นชัดเจนที่สุดในระยะ 3 เดือนหลังจากทำครั้งแรก
  • ปรับผิวเหี่ยว พับเป็นรอย เป็นริ้ว เส้นเล็กๆ ให้กลับมาตึง ไม่มีริ้วรอย
  • ปรับผิวที่ “เหี่ยว เผละ และ ไม่แน่น” ให้กลับมา “แน่น ฟู ตึงเรียบ”
  • ได้ผลทางอ้อมคือ “หน้าชุ่มชื้น ผิวหน้าฉ่ำวาว” แก้ปัญหาที่แต่งหน้าไม่ติด หน้าแห้ง หรือสูญเสียความสมดุลของการสร้างไขมันธรรมชาติ (เนื่องจากความร้อนที่ส่งผ่านผิวหนังลงไปนั้นเป็นบริเวณวงกว้างๆ จึงทำให้โดนศูนย์ควบคุมความชุ่มชื้นของผิวหนัง ทำให้เร่งการหายใจระดับเซลล์ของอวัยวะนี้ จึงทำให้สามารถปรับสมดุลการผลิตไขมันตามธรรมชาติออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มากไม่น้อยเกินไปได้)
  • หากเป็นบริเวณที่มีเลือดคั่งมาก เช่น รอบดวงตา จะช่วยลดรอยคล้ำรอบดวงตาได้เป็นอย่างดี ความร้อนที่ลงผิวจะช่วยเร่งระบบไหลเวียนน้ำเหลือง เร่งการดูดกลับของของเสียและเลือดเสียได้เป็นอย่างดี (รอยคล้ำรอบดวงตา เกิดจากเส้นเลือดที่มาเลี้ยงกล้ามเนื้อรอบดวงตานั้นแตก และร่างกายไม่สามารถดูดกลับเลือดเสียได้หมด เลือดเสียจึงคั่งที่ร่องใต้ดวงตา จนเกิดเป็นรอยคล้ำ)

รักษาถุงใต้ตาที่ไหนดี ทำไมต้องเลือกโปรแกรม RF Eye Lifting ที่ THE TOUCH EXCLUSIVE CLINIC ?

  • RF Eye Lifting ที่ THE TOUCH CLINIC EXCLUSIVE เราใช้เครื่องมือที่ทันสมัย นอกจากจะเป็นเครื่องมือที่ได้มาตรฐานและมีงานวิจัยยอมรับว่า เห็นผลทางการรักษาริ้วรอยรอบดวงตา เซลลูไลท์ และผิวไม่กระชับได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยเทคโนโลยี Bipolar RF และแรงดูดสูญญากาศ ในเครื่องเดียว
  • วิเคราะห์กายวิภาค ใบหน้าทุกครั้งก่อนการรักษาเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • ใช้นักกายภาพบำบัดวิชาชีพเป็นผู้ดำเนินการรักษา ซึ่งเป็นผู้ที่รู้ลายกล้ามเนื้อ และเทคนิคการใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด รวมไปถึงเครื่องมือแพทย์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี
  • ผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นๆ ในคลินิกยังสามารถให้คำแนะนำ ทั้งก่อน และหลังจากทำการรักษาไป เพื่อคงผลลัพธ์ไว้ให้ยาวนานที่สุด รวมถึงการป้องกัน/ชะลอการเกิดอาการดังกล่าวอีกครั้ง
  • เครื่องมือผ่าน FDA ไทย ยุโรป

ข้อห้ามสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาถุงใต้ตา ด้วย RF Eye Lifting  

  • ผู้ที่ทำหัตถการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (Filler) มาน้อยกว่า 1 เดือน
  • ผู้ที่มีผิวไวต่อความร้อน / แพ้ความร้อน
  • ผู้ที่ติดเครื่องกระตุ้นหัวใจ
  • ผู้ที่มีโลหะภายในร่างกาย บริเวณที่ต้องการรักษา
  • ผู้ที่เป็นโรคมะเร็งในระยะแพร่กระจาย
  • ผู้ที่มีแผลเปิด ผิวหนังอักเสบ ติดเชื้อ ในบริเวณที่ต้องการรักษา