| |

Meso Whitening เมโสหน้าใส ทางลัดสู่ผิวสวยกระจ่างใสของสาวๆ

เมโสหน้าใส (Mesotheraphy) กลายมาเป็นทางลัดสู่ผิวสวยกระจ่างใสของสาวๆ ในยุคนี้ไปซะแล้ว เนื่องจากการฉีดเมโสนั้นเป็นวิธีที่เห็นผลค่อนข้างรวดเร็วและชัดเจน อีกทั้งขั้นตอนในการให้บริการก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงใช้แค่ปลายเข็มส่งวิตามินตรงเข้าสู่ชั้นผิว เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้ผิวหน้าที่เสื่อมโทรมกลับมาเปล่งปลั่งดูมีออร่าได้อีกครั้ง 

          และนอกจากจะช่วยในเรื่องความขาวใสแล้ว เมโสยังมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูผิวในด้านต่างๆ ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน ดังนั้นวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเมโสกันให้มากขึ้น รับรองได้ว่าใครที่หมดเงินไปกับครีมหลายกระปุก คุณอาจจะเจอสิ่งที่คุ้มค่ากว่าแล้วก็เป็นได้

เมโสหน้าใส คืออะไร ?

          เมโสหน้าใส คือ การทำทรีทเม้นท์เพื่อฟื้นฟูปัญหาต่างๆ บนผิวหน้า โดยการใช้เข็มฉีดสารจำพวกมัลติวิตามิน แอนติออกซิแดนท์ และสารบำรุงผิวชนิดอื่นๆ เข้าสู่ชั้นผิวหนัง ร่วมกับการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยผลักวิตามินให้ซึมซาบลงสู่ผิวอย่างล้ำลึก ส่งผลให้สีผิวแลดูสม่ำเสมอ ริ้วรอยลดเลือนลง รูขุมขนดูกระชับ จุดด่างดำจางลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนับว่าการฉีดเมโสนั้นเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนนิยมกันมากในปัจจุบัน เพราะเห็นผลค่อนข้างไวกว่าการทาครีมอยู่หลายเท่าตัว 

เมโสหน้าใส ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

          การฉีดเมโสหน้าใสไม่ได้มีดีแค่ทำให้สีผิวสม่ำเสมอ หรือผิวหน้าขาวสว่างกระจ่างใสเพียงเท่านั้น แต่การฉีดเมโสยังเกิดผลดีต่อการช่วยแก้ไขปัญหาผิวในเรื่องต่างๆ เนื่องจากสารประกอบในเมโสนั้นอัดแน่นไปด้วยสารบำรุงเข้มข้นหลากหลายชนิด โดยแต่ละชนิดมีสรรพคุณในการดูแลผิวที่แตกต่างกันไป จึงทำให้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดบนใบหน้าดีขึ้นได้ดังนี้

  • ช่วยปรับผิวที่หมองคล้ำให้กระจ่างใสขึ้น
  • ลดเลือนริ้วรอย ฝ้ากระ จุดด่างดำ หรือรอยสิว
  • ฟื้นฟูปัญหารอยแผลเป็น หรือหลุมสิว
  • ช่วยให้รูขุมขนที่กว้างดูเล็กลง
  • ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้ไวขึ้น เสริมสร้างคอลลาเจน 
  • ช่วยกักเก็บน้ำหล่อเลี้ยงไว้บนผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นยิ่งขึ้น
  • ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิว ช่วยให้ผิวเต่งตึง ดูมีชีวิตชีวา
  • ช่วยลดความมันบนใบหน้า อันเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว
  • ปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรง
  • ช่วยให้แผลบนผิวสมานตัวเร็วยิ่งขึ้น 
  • ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
  • เพิ่มการไหลเวียนของเลือด
  • ฟื้นฟู และบรรเทาผิวจากสารพิษ เช่น ผดผื่น บวมแดง สิว ฯลฯ อันเป็นผลมาจากสารเคมี หรือมลภาวะต่างๆ

การฉีดเมโส กับ มาเด้ ต่างกันยังไง ?

การฉีดเมโสจะใช้วิธีฉีดยาสะกิดบนผิว ไปทั่วใบหน้า หรือฉีดเข้าทางใบหน้า

ส่วนการฉีดมาเด้การใช้เข็มฉีดยาจิ้มลงไปบริเวณจุดฝังเข็ม 16 จุดทั่วใบหน้า (Homeopathy)

โดยสรุปแล้ว มาเด้ คอลลาเจน (MADE Collagen) นั้น ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ เมโสหน้าใส (Mesotherapy) ประเภทหนึ่งนั่นเองค่ะ โดยจะเน้นไปทางการช่วยจัดการกับปัญหาสิวเป็นหลักค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยลด อักเสบของผิว ปัญหาสิวผดผื่น สิวเรื้อรัง และสิวฮอร์โมนอีกด้วยค่ะ ในขณะที่ เมโสหน้าใส (Mesotherapy) โดยทั่วไป จะเน้นเรื่องของการช่วยให้ผิวขาว ใส มากกว่านั่นเอง จึงเหมาะกับคนที่มักจะต้องโดยแดดเป็นประจำ หรือ ผิวคล้ำเสียจากปัญหา มลพิษต่างๆ นั่นเอง

ฉีดมาเด้ และ เมโส เห็นผลได้ในกี่วัน และต้องทำบ่อยแค่ไหน 

เมโส เห็นผลประมาณ 3 วันหลังฉีด และจะเห็นผลเต็มที่ภายใน 7-14 วัน และอยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือน โดยปกติเมโสหน้าใสจะฉีดอาทิตย์ละครั้งใน 1 เดือนแรก และหลังจากนั้นฉีดทุกๆ 2 อาทิตย์เพื่อคงสภาพ

มาเด้ จะเริ่มเห็นผลทันทีหลังฉีด และควรเข้ารับการดูแลทุกสัปดาห์อย่างต่อเนื่องจะเห็นผลได้ดี หลังจากนั้นอาจทำ 2 สัปดาห์/ครั้ง เพื่อคงสภาพ

เมโสหน้าใส เหมาะกับใครบ้าง ?

          อย่างที่ทราบกันว่าเมโสคือการนำเอาส่วนผสมที่มีอยู่ในครีมบำรุงผิวประเภทต่างๆ  มาทำให้อยู่ในลักษณะของวิตามินที่สามารถฉีดเข้าสู่ผิวหนังได้โดยตรง จึงส่งผลให้ผิวได้รับสารบำรุงอย่างเต็มที่เมื่อเปรียบเทียบกับการทาครีมที่บางครั้งอาจดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ยาก  และส่งผลให้ประสิทธิภาพในการบำรุงลดลง ดังนั้นการฉีดเมโสจึงค่อนข้างเหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลแบบเร่งด่วน ใช้เวลาไม่นาน หรือผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง ขาดการทาครีมบำรุงอยู่เป็นประจำ อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาต่างๆ ดังต่อไปนี้ 

  • ต้องการเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว ใช้เวลาไม่นาน
  • ผู้ที่ไม่ชอบการทาครีม หรือโลชั่นบำรุง
  • มีปัญหาใบหน้าหมองคล้ำจากแสงแดด ความเครียด พักผ่อนน้อย
  • ปัญหาผิวแห้งหยาบกร้าน ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว 
  • ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ทั้งการนอนดึก อดนอน พักผ่อนน้อย 
  • มีปัญหาริ้วรอย จุดด่างดำ รอยดำ และรอยแดงจากสิว
  • ต้องการชะลอการเกิดฝ้า

ฉีดเมโสหน้าใส ที่ไหนดี ?

          โดยปกติการฉีดเมโสหน้าใส ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ เพราะปัจจุบันมีสถานที่ให้บริการเกิดขึ้นอยู่มากมาย แต่ก็เสี่ยงต่อการได้รับบริการหรือตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐานเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีจึงควรตรวจสอบข้อมูลต่างๆ อย่างถี่ถ้วน ทั้งการมีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ราคาที่สมเหตุสมผล ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่สามารถตรวจสอบได้อย่างตรงไปตรงมา 

          ทาง THE TOUCH CLINIC เน้นนำเข้าตัวยาที่สกัดจากธรรมชาติ ผ่านมาตรฐาน อย.ทั้งไทย และต่างประเทศ มีความปลอดภัยจากอาการแพ้ ไม่สะสมเป็นสารพิษอยู่ภายในร่างกาย พร้อมยังมอบการรักษาที่มีประสิทธิภาพด้วยตัวยาเมโสที่เป็นสูตรลับเฉพาะของทางคลินิก ผสานการทำงานของนวัตกรรมสมัยใหม่เพื่อให้อนุภาคของสารบำรุงซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก ระหว่างทำไม่รู้สึกเจ็บ และใช้เวลาไม่นาน หลังฉีดสามารถสัมผัสได้ถึงความเปล่งปลั่งอย่างมีออร่า เรียกคืนความมั่นใจกลับมามากยิ่งขึ้น

          พร้อมกันนี้เพื่อผู้ใช้บริการได้รับความพึงพอใจในระหว่างที่เข้ามารับบริการ เรามีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำปรึกษาอยู่ตลอดเวลา ลูกค้าจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง คลายข้อสงสัยต่างๆ ตลอดจนเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง

ข้อดีของการฉีดเมโสหน้าใส 

  • เห็นผลลัพธ์ชัดเจน และไวกว่าการทาครีมบำรุง
  • ไม่ต้องพักฟื้น มีเพียงรอยแดงจากการใช้เข็มสะกิด โดยปกติสามารถหายได้เองภายใน 3 วัน
  • เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ เกิดผลข้างเคียงต่อผิวน้อย
  • ช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างเร่งด่วน เช่น หน้าหมองคล้ำ รอยด่างดำ ผิวอักเสบ เป็นต้น
  • มีความปลอดภัยสูง สามารถสลายได้เอง ไม่มีสารตกค้าง
  • ขั้นตอนในการทำไม่ยุ่งยาก สะดวกรวดเร็ว

ข้อเสียของการฉีดเมโสหน้าใส

  • อาจเกิดรอยแดงหรือรอยช้ำ แต่จะหายได้เอง
  •  อาจเกิดการอักเสบติดเชื้อ อันเนื่องมาจากการซื้อเมโสมาฉีดเอง หรือฉีดกับผู้ที่ไม่ชำนาญ รวมถึงการรักษาความสะอาดไม่มากพอระหว่างฉีด

Q : ผลข้างเคียงของเมโสหน้าใส คืออะไรบ้าง ?

A : จริงๆ ผลข้างเคียงจากการฉีดเมโสนั้นแทบจะน้อยมาก กรณีที่พบอาการแพ้ส่วนใหญ่มักเกิดจากการแพ้ยาชาที่ใช้ทาในขั้นตอนก่อนฉีดเมโส รวมไปถึงกรณีอื่นๆ เช่น ซื้อเมโสมาฉีดเอง ฉีดกับหมอกระเป๋า หรือฉีดเมโสที่ไม่ได้รับมาตรฐาน เป็นต้น ซึ่งหากเราเลือกสถานบริการที่มีความน่าเชื่อถือ และอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องกังวลถึงผลข้างเคียงใดๆ มีเพียงแค่ภายหลังการฉีดอาจพบรอยแดงจากเข็มตามใบหน้าบ้าง ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายได้เองภายใน 1-3 วัน

Q : ฉีดเมโหน้าใส เห็นผลภายในกี่วัน ? 

A : จะเริ่มเห็นผลหลังฉีดประมาณ 3 วัน และจะเห็นผลชัดเจนประมาณ 7-14 วันหลังฉีด ซึ่งประสิทธิภาพของเมโสจะอยู่ได้นาน 1-2 เดือน (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองในแต่ละคน) ทั้งนี้เพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ แนะนำให้ฉีดสัปดาห์ละครั้งต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ และหลังจากนั้นจึงค่อยฉีดเป็นเดือนละ 1-2 ครั้งเพื่อให้ตัวยาคงสภาพ

**ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล การดูแลตัวเอง และความต่อเนื่องในการเข้ารับบริการ 

Q : ฉีดเมโสหน้าใส เจ็บไหม ?

A : หากพูดว่าไม่เจ็บเลยก็คงจะเป็นไปไม่ได้ สำหรับการฉีดเมโสนั้นความเจ็บจะอยู่ในระดับที่ทนได้ เนื่องจากเข็มที่ใช้มีขนาดเล็กมาก ซึ่งในบางรายอาจแทบไม่รู้สึกเจ็บเลย จะมีเพียงก็แต่รู้ความสึกตึงๆ หรืออุ่นๆ เล็กน้อยในบริเวณที่เข็มจิ้มลงไปเท่านั้น

Q : หลังฉีดเมโสหน้าใส ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?

A :

1. หลังฉีดอาจเกิดรอยแดงรอยช้ำ หรือตุ่มขึ้นในบริเวณที่ฉีด อาจแก้ไขโดยการประคบเย็นภายใน 48 ชม.แรก จากนั้นจึงค่อยประคบอุ่น

2. หลังฉีดไม่ควรนวดหน้าหรือขัดผิวในทันที เพราะอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองมากยิ่งขึ้น 

3. งดทาครีมบำรุงหรือทรีทเม้นท์ใน 1 คืนแรก

Q : มาเด้ กับ เม โส อะไร ดีกว่ากัน ?

จะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละคนค่ะ ทั้งนี้แอดมินอยากให้สาวๆ เข้ามาปรึกษากับทางทีมผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อประเมินปัญหาผิวที่กังวลก่อนการรักษา เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดนั้นเองค่ะ

โดยสรุปแล้ว 

          การฉีดเมโสหน้าใสเป็นการฟื้นฟูผิวหน้าให้ดีขึ้นได้ในเวลาไม่นาน หากใช้ครีมแล้วรู้สึกไม่ทันใจและต้องการเห็นผลแบบรวดเร็ว วิธีนี้เป็นอีกตัวเลือกที่ทำแล้วเห็นผลไว และมากกว่าการบำรุงผิวคือเมโสจะทำหน้าที่ปกป้องผิวในคราวเดียวกัน ช่วยทำให้ผิวแข็งแรง ไม่ให้กลับมาเสื่อมโทรมได้ง่าย รวมถึงยังเป็นวิธีที่ปลอดภัย และเจ็บน้อยมาก