แพทย์ชี้ ร่างพัง…เพราะ “อักเสบเรื้อรัง” ไม่รู้ตัว

ต้นตอของความเหนื่อยล้า ปวดเมื่อย แก่ก่อนวัย และสารพัดโรค อาจเกิดจากพฤติกรรมที่เราทำ เป็นประจำ ทุกวัน

“การอักเสบ” คืออะไร?
“การอักเสบ” (Inflammation) เป็นกลไกธรรมชาติที่ร่างกายใช้ซ่อมแซมตัวเอง เมื่อมีการบาดเจ็บ การติดเชื้อ หรือสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันจะปล่อยสารเคมีและเม็ดเลือดขาวออกมาต่อสู้กับสิ่งนั้น
หากการอักเสบเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เรียกว่า “การอักเสบเฉียบพลัน” ร่างกายจะซ่อมแซมตัวเองและกลับสู่ภาวะปกติได้ในเวลาไม่นาน แต่ถ้าร่างกายต้องเผชิญกับสิ่งกระตุ้นซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน เช่น ความเครียดสะสม การนอนน้อย หรืออาหารไม่เหมาะสม การอักเสบจะไม่ยอมหาย และกลายเป็น “การอักเสบเรื้อรัง” ที่ค่อย ๆ ทำลายอวัยวะและเนื้อเยื่ออย่างเงียบ ๆ โดยไม่แสดงอาการในระยะแรก

เช็กลิสต์! 6 สัญญาณ “อักเสบซ่อนเร้น”
ร่างกายกำลังส่งสัญญาณเหล่านี้อยู่รึเปล่า? การอักเสบเรื้อรังอาจไม่ได้แสดงออกแบบชัดเจน แต่จะค่อย ๆ ส่งสัญญาณเล็ก ๆ ที่หลายคนมองข้าม เช่น
☐ เหนื่อยล้า อ่อนเพลียตลอดเวลา แม้นอนเต็มที่แต่ยังรู้สึกไม่มีแรง
☐ ปวดเมื่อยตามตัวหรือข้อต่อ โดยไม่รู้สาเหตุชัดเจน
☐ สมองตื้อ คิดช้า เหมือนมีหมอกในหัว สัญญาณว่าเซลล์สมองอาจอักเสบ
☐ สิว ผื่นคัน หรือผิวแพ้ง่ายกว่าปกติ เพราะการอักเสบทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดจังหวะ
☐ ท้องอืด ท้องผูก หรือท้องเสียง่าย แสดงว่าลำไส้อาจอักเสบจนเสียสมดุล
☐ น้ำหนักขึ้นง่าย โดยเฉพาะลงพุง ทั้งที่กินไม่มาก เพราะร่างกายเผาผลาญผิดปกติจากภาวะอักเสบเรื้อรัง
หากมีมากกว่า 2 ข้อขึ้นไป นั่นคือสัญญาณเตือนว่าร่างกายคุณอาจกำลังอยู่ในภาวะ “ติดไฟภายใน”

หยุดเติม “อาหาร” เชื้อไฟเรียก ‘การอักเสบ’
อาหารบางอย่างเป็นเหมือนน้ำมันที่สาดลงในกองไฟของร่างกาย เมื่อกินบ่อย ๆ จะยิ่งกระตุ้นให้ร่างกายอักเสบหนักขึ้นเรื่อยๆ
ของทอด / ไขมันทรานส์ — เช่น เฟรนช์ฟรายส์, โดนัท, มาการีน ไขมันทรานส์ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและเพิ่มสารอักเสบในเลือด
น้ำตาลและแป้งขัดขาว — เช่น น้ำหวาน, เบเกอรี่, ขนมปังขาว ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงบ่อย ๆ ทำให้ร่างกายผลิตอินซูลินมากเกินไปและเกิดการอักเสบในระดับเซลล์
อาหารแปรรูป — เช่น ไส้กรอก, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, อาหารแช่แข็ง มีโซเดียมและสารกันบูดที่รบกวนสมดุลระบบภูมิคุ้มกัน

หยุด “พฤติกรรม” สุมไฟเร่งให้ร่างพัง
ไม่ใช่แค่อาหารเท่านั้นที่เป็นตัวจุดไฟอักเสบ แต่ “พฤติกรรมประจำวัน” ก็มีผลอย่างมากเช่นกัน
ความเครียดสะสม
ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) ตลอดเวลา หากฮอร์โมนนี้สูงนานเกินไป จะไปกระตุ้นการอักเสบทั่วร่างกาย
นอนน้อย นอนดึก
เมื่อร่างกายไม่ได้พักเพียงพอ ระบบซ่อมแซมเซลล์จะทำงานลดลง ทำให้การอักเสบสะสมโดยที่ไม่รู้ตัว
มลภาวะและสารพิษ
ควันบุหรี่ ฝุ่น PM2.5 และสารเคมีจากสิ่งแวดล้อม ล้วนเพิ่มภาระให้ร่างกายและกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระมากขึ้น

เริ่มต้นดับไฟด้วย “อาหาร” กินให้เป็นยา
การปรับพฤติกรรม “การกิน” คือวิธีดับไฟที่ดีที่สุด อาหารที่มีคุณสมบัติต้านอักเสบจะช่วยฟื้นฟูร่างกายและลดความเสียหายของเซลล์
ผักใบเขียวและผักหลากสี เช่น คะน้า แครอท มะเขือเทศ
อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากการอักเสบ
ไขมันดี (Omega-3)
พบในปลาทะเล, อะโวคาโด, ถั่วต่าง ๆ, น้ำมันมะกอก ช่วยลดระดับสารก่ออักเสบในร่างกายได้จริง
เครื่องเทศไทย ๆ เช่น ขมิ้นชัน ขิง กระเทียม
มีสารเคอร์คูมินและจินเจอรอลที่ช่วยลดการอักเสบในระดับเซลล์

ขยับตัวไล่ควัน “ไล่การอักเสบ”
ร่างกายที่ไม่ขยับ คือร่างกายที่ไฟอักเสบสะสม การออกกำลังกายเบา ๆ ถึงปานกลางช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานดีขึ้น ลดการสะสมของไขมัน และควบคุมฮอร์โมนความเครียดได้
เดินเร็ว โยคะ ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน วันละ 30-45 นาที เพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่จะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารต้านอักเสบออกมาได้แล้ว

นอนดี = ซ่อมร่าง
การนอนหลับที่มีคุณภาพคือ “เครื่องมือซ่อมแซมร่างกายที่ดีที่สุด” ในช่วงหลับลึก ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินและโกรทฮอร์โมน ซึ่งช่วยซ่อมแซมเซลล์และลดการอักเสบในระดับลึก
- นอนอย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง
- งดใช้มือถือก่อนนอน 1 ชั่วโมง
- ปิดไฟให้มืดสนิท และฝึกสมาธิสั้น ๆ ก่อนนอน เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่โหมดฟื้นฟูเต็มที่

ใจที่ไม่เครียด คือยาลดอักเสบที่ดีที่สุด
ความเครียดไม่เพียงบั่นทอนจิตใจ แต่ยังเพิ่มการอักเสบในร่างกายโดยตรง การดูแลใจจึงสำคัญไม่แพ้การดูแลร่างกาย
- ออกไปเจอธรรมชาติ – เดินเล่นในสวน สูดอากาศบริสุทธิ์
- ฝึกหายใจเข้า-ออกลึก ๆ – วันละ 5 นาทีช่วยลดความเครียดได้
- ทำสิ่งที่รัก / งานอดิเรกเล็ก ๆ – ช่วยให้สมองได้พักและลดระดับฮอร์โมนความเครียด

กู้ร่างพัง เริ่มต้นที่ “ดับไฟอักเสบ” วันนี้
- กินดี : เน้นอาหารจริง ลดของแปรรูป
- ขยับบ่อย : ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
- นอนพอ : ให้เวลาร่างกายซ่อมแซม
- ใจสบาย : จัดการความเครียดให้สมดุล
และหากคุณเริ่มมีอาการปวดเมื่อยเรื้อรังจากการอักเสบสะสม
The Touch Wellness ขอแนะนำให้เริ่มฟื้นฟูด้วยการดูแลเฉพาะจุด เช่น
- Shockwave Therapy
คลื่นกระแทกพลังงานสูงช่วยสลายพังผืด ลดอักเสบลึกเฉพาะจุด
- Ultrasound Sonic Massage
คลื่นเสียงความถี่สูงช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและลดบวม
- Stretching Therapy
ยืดเหยียดโดยผู้ชำนาญการ เพื่อคลายตึง ลดการสะสมของการอักเสบในกล้ามเนื้อ
อย่าปล่อยให้ “ไฟเงียบ” ลามทั้งร่างกาย
เริ่มต้นดับไฟวันนี้…เพื่อคืนพลังชีวิตให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง 🌿
The Touch Clinic มี 5 สาขาให้เลือกใช้บริการ
สาขา สยามสแควร์ ซอย 2
สาขา เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ เลียบด่วน-รามอินทรา (ด้านหลังห้าง)
สาขา เซ็นทรัลปิ่นเกล้า
สาขา เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ
สาขา Central Park (ใหม่)
เพราะสุขภาพของคุณไม่ควรรอให้ “พัง” แล้วค่อยรักษา
