กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท คนนั่งนาน ต้องระวัง!
โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบ
ในยุคสมัยที่การทำงานส่วนใหญ่ต้องนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หลายๆ คนอาจเคยประสบกับอาการปวดบริเวณสะโพกเรื้อรังจากการนั่งนานๆ อาการเหล่านี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ “อาการออฟฟิศซินโดรม”
แต่หากใครมีอาการปวดสะโพกร่วมกับมีอาการร้าวลงขาด้านหลัง รู้สึกชา หรืออ่อนแรง ให้สงสัยว่าอาจเป็นสัญญาณเตือนของ “โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท” โรคยอดฮิตของคนยุคใหม่ที่ชอบนั่งนานๆ
![โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบ](https://www.thetouchexclusive.com/wp-content/uploads/2024/05/ปกสะโพก.jpg)
โรคนี้คืออะไร?
โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท หรือ กลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (Piriformis Syndrome) เป็นภาวะที่กล้ามเนื้อ พิริฟอร์มิส (Piriformis muscle) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ ลึกๆ บริเวณก้น ไปกดทับ เส้นประสาทไซอาติก (Sciatic nerve) ที่อยู่ใกล้กัน ส่งผลให้เกิดอาการปวดลึกรอบๆ ข้อสะโพก ร้าวลงขาด้านหลัง
ซึ่งสาเหตุของโรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท ยังไม่แน่ชัด แต่อาจเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ กลุ่มอาการนี้มักเกิดจากการอักเสบ การบาดเจ็บ หรือภาวะเลือดออกที่กล้ามเนื้อพิริฟอร์มิสจนปวดบริเวณก้นร้าวไปยังขา โรคนี้ส่วนใหญ่จะเกิดกับคนที่นั่งทำงานนานๆ ทำให้สะโพกงอหรือคนที่ออกกำลังกายหนักๆ
สัญญาณเตือน เสี่ยงเป็นโรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท ใครมีอาการแบบนี้ต้องระวัง!
- ปวดลึกๆ บริเวณก้น ปวดสะโพกร้าวลงขา ด้านหลัง
- ปวดบริเวณสะโพกตรงบริเวณที่นั่งทับ หรือมีอาการปวดเมื่อนั่งนานๆ เมื่อลุกขึ้นอาการปวดจะเบาลง
- รู้สึกเจ็บเมื่อใช้มือกดบริเวณสะโพก
- อาจมีอาการชาเท้า หรืออาการกล้ามเนื้อขาอ่อนแรงร่วมด้วย
ใครเสี่ยงเป็นโรคนี้บ้าง? ปัจจัยและพฤติกรรมเสี่ยง “โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท”
- ผู้ที่หักโหมออกกำลังกายมากเกินไป
- ผู้ที่ชอบวิ่งหรือทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวขาอย่างต่อเนื่องติดกันนานๆ
- ผู้ที่นั่งเป็นเวลานานๆ นั่งบนพื้นผิวแข็งๆ บ่อยๆ
- ผู้ที่ยกของหนักเป็นประจำ
- ผู้ที่เคยมีอาการกล้ามเนื้อสะโพกอักเสบ
- กล้ามเนื้อพิริฟอร์มิสตึงหรืออักเสบ
- เส้นประสาทไซอาติกถูกกดทับจากพังผืดหรือมวลเนื้ออื่นๆ
- ท่าทางการนั่งที่ไม่เหมาะสม เช่น นั่งไขว่ห้าง
- โรคอ้วน
- โรคเบาหวาน
โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท ป้องกันได้อย่างไร?
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนสาย ก่อนเป็น “โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท”
- หลีกเลี่ยงการนั่งนานๆ ควรลุกขึ้นยืนและเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ทุกๆ 30-60 นาที
- ยืดกล้ามเนื้อสะโพกและขาเป็นประจำ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เลือกประเภทที่เหมาะสม เช่น ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน โยคะ ยืดเหยียดกล้ามเนื้อสะโพก กล้ามเนื้อก้น กล้ามเนื้อหลัง เป็นต้น
- รักษาสุขภาพให้สมดุล ควบคุมน้ำหนัก ลดความอ้วน ลดแรงกดทับบริเวณสะโพก
- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก
- ปรับท่าทางการนั่งให้ถูกต้อง นั่งตัวตรง เก้าอี้ควรมีความสูงที่พอดี รองรับสรีระ วางเท้าราบกับพื้น หลีกเลี่ยงการนั่งไขว่ห้าง
- ใส่รองเท้าที่เหมาะสม เลือกใส่รองเท้าที่มีส้นเตี้ย พื้นรองรับรับแรงกระแทกได้ดี
แนวทางการรักษาโรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท
โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยทั่วไปแพทย์จะแนะนำให้รักษาแบบไม่ผ่าตัด ดังนี้
- ประคบร้อนหรือเย็น บริเวณที่ปวด
- ยืดกล้ามเนื้อ บริเวณสะโพกและขา
- รับประทานยา แก้ปวดและยาแก้อักเสบ
- ฉีดยาสเตียรอยด์ เข้าที่กล้ามเนื้อพิริฟอร์มิส
- การผ่าตัด เป็นวิธีสุดท้าย กรณีที่อาการไม่ดีขึ้นด้วยวิธีอื่นๆ
- ทำกายภาพบำบัด เพื่อยืดกล้ามเนื้อและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
การรักษาโรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท ด้วยเครื่องกายภาพบำบัด
![โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบ](https://www.thetouchexclusive.com/wp-content/uploads/2024/05/ปกสะโพก03-3.jpg)
เก้าอี้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า EMS wave chair
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาโรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท ซึ่งเป็นกลุ่มอาการกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรังบริเวณสะโพก โดยสามารถรักษาด้วยเก้าอี้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ตัวเครื่องจะมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นระบบปลายประสาทให้ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดปวดได้ดี รักษาอาการปวดสะโพกได้อย่างตรงจุด
ทำความรู้จัก เก้าอี้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า EMS wave chair แค่นั่งก็ช่วยลดปวดได้! เป็นเก้าอี้ที่ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เทคโนโลยี HIFEM ช่วยกระตุ้นระบบปลายประสาทให้ทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งเก้าอี้สามารถรักษาอาการปวดเรื้อรังบริเวณสะโพกและขาส่วนบน นอกเหนือจากนั้นจุดเด่นของเครื่องนี้ยังช่วยรักษาอาการปัสสาวะเล็ดหรือกลั้นปัสสาวะไม่ค่อยอยู่ รักษากลุ่มผู้ที่มีปัญหาสุขภาพทางเพศ หรือผู้ที่ต้องการกระชับช่องคลอดได้อีกด้วย
อย่าปล่อยไว้นาน! หากมีอาการปวดสะโพก
ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษา!