ตาพร่า เห็นแสงวูบวาบ ไม่ใช่ภาพหลอน แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนจากสมอง
ตาพร่า เห็นแสงวูบวาบ
ไม่ใช่ภาพหลอน แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนจากสมอง
หลายคนเคยมีประสบการณ์แปลก ๆ อยู่ดี ๆ ก็เห็นแสงวูบวาบ เส้นซิกแซก แสงแฟลช หรือมองเห็นภาพเบลอ ซ้อน เคลื่อนไหวผิดปกติ แต่พอไปตรวจตา กลับไม่พบความผิดปกติใด ๆ
อาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดจาก “จินตนาการ” และไม่ใช่ปัญหาที่ดวงตาเสมอไป แต่ในหลายกรณี ต้นเหตุอาจอยู่ที่สมอง
หนึ่งในภาวะที่พบบ่อย คือ “ไมเกรนแบบออร่า (Migraine with Aura)” ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนจากระบบประสาท ที่หลายคนไม่รู้จัก และมักถูกมองข้าม
ตาพร่า เห็นแสงวูบวาบ เกิดจากอะไร?
อาการตาพร่าหรือเห็นแสงผิดปกติ สามารถเกิดได้จากหลายระบบ ไม่ใช่แค่ดวงตา โดยเฉพาะกรณีที่:
- ตรวจตาแล้ว “ปกติ”
- อาการเป็น ๆ หาย ๆ
- มักเกิดก่อนหรือร่วมกับอาการปวดศีรษะ
สิ่งที่เกิดขึ้นจริง คือ สมองส่วนที่ควบคุมการมองเห็นทำงานผิดจังหวะชั่วคราว สมองไม่ได้ “เสีย” แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าและสารสื่อประสาท ทำให้สมอง “สร้างภาพบางอย่างขึ้นมาเอง”
ไมเกรนแบบออร่า คืออะไร?
ไมเกรนที่ไม่ได้เริ่มจากความปวด
ไมเกรนแบบออร่า คือไมเกรนชนิดหนึ่งที่มี อาการเตือนทางระบบประสาท เกิดขึ้นก่อนอาการปวดศีรษะ หรือบางครั้งอาจไม่ปวดเลย
คำว่า “ออร่า (Aura)” หมายถึงอาการผิดปกติชั่วคราวของสมอง ไม่ใช่พลังลึกลับ และไม่ใช่ภาพหลอน
อาการออร่าที่พบบ่อย
อาการมักเกิดขึ้นทีละขั้น และหายไปเองภายใน 5–60 นาที เช่น:
- เห็นแสงวูบวาบ แสงแฟลช
- เห็นเส้นซิกแซก คล้ายสายฟ้า
- ภาพซ้อน ภาพเบลอ เห็นจุดบอด
- ตามัวชั่วคราว
- เวียนศีรษะ มึนงง
- ปวดศีรษะข้างเดียว หรือปวดตุบ ๆ
- ปวดตา หรือรู้สึกตึงรอบเบ้าตา
หลังจากนั้น อาการปวดศีรษะไมเกรนอาจตามมา หรือในบางคน มีแค่ออร่า แต่ไม่ปวดหัว
กลไกที่เกิดขึ้นในสมอง
คลื่นไฟฟ้าในสมองที่ “ล้นเกิน”
ในไมเกรนแบบออร่า สมองจะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Cortical Spreading Depression พูดง่าย ๆ คือ คลื่นไฟฟ้าในสมอง “วิ่งผิดจังหวะ” ไหลผ่านสมองส่วนการมองเห็น ทำให้สมองแปลผลภาพผิดไปชั่วคราว นี่คือเหตุผลที่ ตาไม่ผิดปกติ แต่ “เห็นผิด”
อาการแบบนี้…อันตรายไหม?
ไมเกรนแบบออร่า ส่วนใหญ่ไม่อันตรายถึงชีวิต แต่ไม่ควรถูกมองข้าม เพราะมีงานวิจัยพบว่า ผู้ที่เป็นไมเกรนแบบออร่า มีความเสี่ยงต่อ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) มากกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีปัจจัยเสริม เช่น:
- สูบบุหรี่
- ใช้ฮอร์โมนบางชนิด
- ความเครียดเรื้อรัง
- นอนน้อย
- ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี
ดังนั้น ออร่าไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่เป็น สัญญาณเตือนที่สมองส่งมา
เมื่อมีอาการ ควรทำอย่างไร?
ดูแลตัวเองทันทีเมื่อเริ่มมีออร่า
เมื่อเริ่มเห็นแสงวูบวาบหรือภาพผิดปกติ ควรทำสิ่งต่อไปนี้:
- หลีกเลี่ยงแสงจ้า เสียงดัง
- หยุดกิจกรรมที่ใช้สายตาหนัก
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- นอนพักในที่เงียบ มืด
- ผ่อนคลาย หายใจช้า ๆ ลึก ๆ
บันทึก “ตัวกระตุ้น” สำคัญมาก
ไมเกรนมักมี Trigger เฉพาะบุคคล เช่น:
- ความเครียด
- การอดนอน
- แสงจ้า
- จอมือถือ / คอมพิวเตอร์
- อาหารบางชนิด
- ฮอร์โมน
การจดบันทึกจะช่วยให้ เข้าใจร่างกายตัวเอง และป้องกันได้ดีขึ้น
อย่าชะล่าใจ หากอาการเปลี่ยนไป
ควรพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทันที หากมีอาการเหล่านี้:
- ออร่าเกิดบ่อยขึ้น รุนแรงขึ้น
- ออร่านานเกิน 60 นาที
- มีอาการชาหรืออ่อนแรงครึ่งซีก
- พูดไม่ชัด
- ปวดศีรษะรุนแรงผิดปกติ
เพราะอาการบางอย่าง อาจคล้ายโรคทางสมองอื่น ๆ ที่ต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียด
ไมเกรนแบบออร่า กับคุณภาพชีวิต
ไมเกรนอาจดูเหมือนไม่ร้ายแรง แต่หากเกิดซ้ำบ่อย ๆ จะกระทบทั้ง:
- การทำงาน
- สมาธิ
- การนอน
- สุขภาพจิต
- ความมั่นใจในการใช้ชีวิต
การดูแลไมเกรน ไม่ใช่แค่ “กินยาแก้ปวด” แต่คือการดูแล ระบบประสาทและสมดุลร่างกายโดยรวม
ฟังสัญญาณจากสมอง ก่อนจะสาย
อาการตาพร่า เห็นแสงวูบวาบ ไม่ใช่ภาพหลอน แต่คือ “ภาษาของสมอง” ที่กำลังบอกว่า ระบบประสาทกำลังทำงานหนักเกินไป
การเข้าใจอาการตั้งแต่เนิ่น ๆ คือกุญแจสำคัญในการป้องกัน และดูแลสุขภาพสมองในระยะยาว
หากไม่แน่ใจ อย่าปล่อยให้ความเคยชิน กลายเป็นความเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว




